ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนมิถุนายน พบว่าดัชนีเพิ่มขึ้นเป็น 60.5 จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 53.5 ซึ่งดีขึ้นจากตัวเลข 52.5 ในเดือนก่อนหน้า
ดัชนีสภาวะปัจจุบันอยู่ที่ 63.7 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 59.4 ขณะที่ความคาดหวังของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 58.4 จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 49.0
ความคาดหวังเงินเฟ้อในปีหน้าลดลงจาก 6.6% เหลือ 5.1% ความคาดหวังเงินเฟ้อห้าปีลดลงเล็กน้อยจาก 4.2% เหลือ 4.1%
แนวโน้มความรู้สึกของผู้บริโภค
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 16% จากเดือนที่แล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าระดับเดือนธันวาคม 2024 ประมาณ 20%
ส่วนประกอบทั้ง 5 ส่วนของดัชนีมีการเติบโต โดยเฉพาะในด้านความคาดหวังต่อสภาวะทางธุรกิจ ตลาดการเงินตอบสนองได้จำกัดแม้จะมีข้อมูลที่ดีขึ้น
- ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีอยู่ที่ 3.945%
- ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.398%
- ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีอยู่ที่ 4.885%
ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 47 ดอลลาร์ หรือ 1.4% แตะที่ 3,433 ดอลลาร์ โดยแตะระดับสูงสุดที่ 3,446.79 ดอลลาร์
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคขั้นสุดท้ายจะประกาศในอีกประมาณ 10 วัน การปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็วของความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกัน แสดงให้เห็นว่าผู้คนเริ่มมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวเป็นจุดจบของการลดลงในช่วงครึ่งปีแรก บ่งชี้ถึงบรรยากาศในครัวเรือนที่สดใสขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของมุมมองต่อแนวโน้มในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ระดับความเชื่อมั่นยังไม่กลับสู่จุดแข็งที่เคยมีในช่วงปลายปีที่แล้ว ความคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง โดยเฉพาะช่วง 12 เดือนข้างหน้า อาจสะท้อนได้หลายอย่าง
- อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์สำหรับ 1 ปีข้างหน้าลดลงจาก 6.6% เหลือ 5.1%
- อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะ 5 ปี ลดลงเล็กน้อยจาก 4.2% เหลือ 4.1%
การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งชี้ว่าผู้บริโภคเชื่อว่าแรงกดดันจากราคาจะผ่อนคลายเร็วขึ้นกว่าที่คิด ความคาดหวังในระยะยาวปรับตัวได้ช้ากว่า จึงมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ในด้านตลาดตราสารหนี้ ถึงแม้ตัวเลขความเชื่อมั่นจะดีเกินคาด แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกลับขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ถึงความระมัดระวังของนักลงทุนมากกว่าความตื่นเต้น
ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าตลาดคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างจริงจัง
ปฏิกิริยาและกลยุทธ์ของตลาด
ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเสี่ยงเงินเฟ้อที่ตลาดยังไม่ละเลย แม้ตัวเลขความเชื่อมั่นจะปรับดีขึ้น แต่ความไม่แน่นอนในระยะใกล้ยังไม่หมดไป
การพุ่งขึ้นของราคาทองแตะ 3,446.79 ดอลลาร์ อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาด โดยเฉพาะผู้ซื้อขายอนุพันธ์ที่มีความเสี่ยงจากโลหะมีค่า ซึ่งอาจหวังให้แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงช่วยลดการพุ่งขึ้น
เรากำลังจับตาว่าตลาดจะตอบสนองต่อข้อมูลความเชื่อมั่นพร้อมกับข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาอย่างไร เพื่อตัดสินใจในเรื่องการรับความเสี่ยง
มีแนวโน้มสูงว่าผู้ลงทุนจะเลือกกลยุทธ์ที่ระมัดระวังต่อไปในระยะใกล้ เนื่องจาก:
- ยังไม่มีการยืนยันจากแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ เช่น ค่าจ้าง หรือ การใช้จ่ายของผู้บริโภค
- ความเชื่อมั่นที่ยังไม่แน่ว่าจะแปลเป็นพฤติกรรมการใช้จ่ายจริงหรือไม่
จนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน หรือการใช้จ่ายจะสะท้อนภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน การถือสถานะซื้อยังคงต้องดำเนินการอย่างเลือกสรร
สำหรับตลาดฟิวเจอร์สและออปชั่น ต้องคงแนวทางด้วยความระมัดระวัง ความต่างของมุมมองที่ดีจากครัวเรือนและการตอบสนองแบบเงียบของตลาดพันธบัตร แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นอาจไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมจริง
หากตัวเลขการใช้จ่ายหรือจ้างงานไม่สอดคล้องกับความรู้สึกที่ดีขึ้น จุดข้อมูลเดียวก็อาจไม่มีน้ำหนักมากพอ
การสำรวจความเชื่อมั่นฉบับสุดท้ายในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการทบทวนว่าอะไรเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อภาพรวมของเงินเฟ้อ
ความรู้สึกทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นแต่ยังไม่เสถียร อาจทำให้การรักษาแนวโน้มการฟื้นตัวเป็นเรื่องยาก
ควรเตรียมตัวสำหรับการกำหนดราคาครั้งใหม่ ในกรณีที่ความคาดหวังเงินเฟ้อยังคงอ่อนตัวต่อไป ในขณะเดียวกันก็ควรติดตามการเคลื่อนไหวในตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างใกล้ชิด
เราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขายและราคาพรีเมียมในระยะใกล้ โดยผู้ซื้อขายต้องจับตาสัญญาณใหม่ ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขายในตลาด
สรุปแล้ว แม้ข้อมูลในวันนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกเชิงบวก แต่ก็ยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่แน่นอน ต้องดำเนินกลยุทธ์แบบมีการคัดเลือก ไม่ใช่การลงทุนแบบกล้าหาญ แต่เน้นความชัดเจนและมีวินัย
เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets