ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อขายต่ำกว่า 101.00 เล็กน้อย หลังจากที่มีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่หลากหลายซึ่งไม่สามารถกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดได้ โดยในเดือนเมษายน ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงเหลือ 2.4% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังคงอยู่ที่ 229,000 ราย โดยมีจำนวนผู้ยื่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนภาษาของเฟดเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นดังกล่าวไม่ได้สร้างปฏิกิริยามากนักในตลาด นักลงทุนให้ความสนใจกับประเด็นอื่น เช่น การแทรกแซงค่าเงินที่อาจเกิดขึ้นในเอเชีย และการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงหยุดชะงัก
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ จึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย มาที่ระดับ 100.80 สะท้อนถึงความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงซื้อขายอย่างลังเล ระหว่างกรอบแคบๆ ที่ 100.59 ถึง 101.05 ขณะที่ตัวบ่งชี้อย่าง RSI และ MACD แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมการซื้อเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง
ระดับแนวรับที่สำคัญคือ:
- 100.62
- 100.59
- 100.56
ขณะเดียวกัน ระดับแนวต้านสำคัญอยู่ที่:
- 100.92
- 101.34
- 101.81
การทะลุผ่านระดับ 101.90 หรือหลุดต่ำกว่า 100.22 อาจเป็นสัญญาณของการเคลื่อนไหวในทิศทางอย่างใดอย่างหนึ่งที่ชัดเจน
สกุลเงิน USD เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายมากที่สุดในโลก คิดเป็นกว่า 88% ของมูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก โดยในปี 2022 มีปริมาณธุรกรรมเฉลี่ย 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะการปรับอัตราดอกเบี้ย มีผลกระทบสำคัญต่อมูลค่าของ USD
ข้อมูลล่าสุดจากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่ายอดขายปลีกเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.1% ในเดือนเมษายน ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับแนวโน้มตามฤดูกาล ดัชนีราคาผู้ผลิตชะลอตัวลงเหลือ 2.4% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังทรงตัวใกล้ 229,000 ราย
พาวเวลล์ยังได้เน้นถึงการปรับเปลี่ยนแนวทางในการสื่อสารด้านนโยบายเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการจ้างงาน ถึงแม้คำพูดของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงทิศทางตลาดอย่างมีนัยสำคัญ แต่นักลงทุนได้หันไปให้ความสำคัญกับข่าวเกี่ยวกับ:
- ความเป็นไปได้ของการแทรกแซงค่าเงินในเอเชีย
- ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลของการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน
แม้ดัชนี DXY จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 100.80 แต่ก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม ซึ่งสะท้อนถึงความลังเลของตลาด โครงสร้างกราฟแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังไม่แข็งแรง และแนวโน้มโดยรวมยังเอียงไปทางขาลง
หากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 100.22 อาจนำไปสู่การปรับตัวลงอย่างชัดเจน ในขณะที่การทะลุแนวต้านที่ 101.90 ขึ้นไป อาจทำให้เกิดการพลิกกลับแนวโน้มแบบชั่วคราว อย่างไรก็ตามราคายังคงอยู่ในกรอบ โดยมีแรงต้านระยะสั้นที่:
- 100.92
- 101.34
- 101.81
และแนวรับสำคัญยังอยู่ใกล้:
- 100.62
- 100.59
- 100.56
จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ เงื่อนไขปัจจุบันบ่งชี้ว่านักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการเดิมพันระยะสั้น รักษาตำแหน่งที่ยืดหยุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุน
แม้ว่าความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงผันผวนตามข้อมูลทางเศรษฐกิจใหม่ๆ แต่สิ่งสำคัญคือการจับตาการตอบสนองของตลาดพันธบัตร ซึ่งอาจให้สัญญาณได้เร็วกว่าแค่ตัวเลขจากรายงานเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว
ปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบางในช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญของดัชนี DXY ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความลังเลของตลาด นักลงทุนควรรอให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนกว่าจากกรอบปัจจุบันก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง
หากเกิดการทลายกรอบการเคลื่อนไหวนี้ โดยเฉพาะกรณีที่มีข่าวนโยบายจากเฟดหรือพัฒนาการไม่คาดฝันจากเอเชีย การมีส่วนร่วมในการเก็งกำไรอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย:
- แรงกดดันด้านลบอาจรุนแรงหากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดมีลักษณะผ่อนคลาย
- ส่วนแรงหนุนด้านบวกอาจเกิดขึ้นหากเฟดกลับมาคุมเข้ม หรือถ้าสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เริ่มสูญเสียความน่าสนใจ
จนกว่าจะถึงจุดเปลี่ยนที่ชัดเจน นักลงทุนจะต้องเผชิญกับโครงสร้างตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงช้าและความผันผวนระยะสั้น ซึ่งไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานอย่างแท้จริง จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความผิดพลาดของราคาในระหว่างช่วงเวลานี้
เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets