USD/CHF ดีดตัวจากระดับใกล้ 0.8100 เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้นหลังจากที่จีนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ

    by VT Markets
    /
    Apr 13, 2025
    แน่นอน! ด้านล่างนี้คือบทความที่มีการเพิ่มแท็ก

    สำหรับย่อหน้า และแท็ก

  • สำหรับรายการเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น:

    USD/CHF ร่วงลงมาที่ระดับประมาณ 0.8100 ก่อนที่จะดีดตัวกลับ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะนี้ความสนใจจะมุ่งไปที่ข้อมูลราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศในเร็วๆ นี้ การที่ปักกิ่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เป็น 125% เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อตอบสนองต่อการปรับขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ความตึงเครียดด้านการค้าทวีความรุนแรงขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ค้าหันไปซื้อสกุลเงินสวิสมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554

    ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพร้อมภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

    ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) อ่อนค่าลง การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซ้ำอีกครั้งก็เพิ่มแรงกดดันเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

    นักลงทุนจะจับตาดูดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมีนาคมและมาตรวัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของรัฐมิชิแกนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะองค์ประกอบเงินเฟ้อ

    ในด้านในประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสวิตเซอร์แลนด์แย่ลงเล็กน้อยที่ -35 ในเดือนมีนาคม ตามรายงานของ SECO ระดับแนวรับสำคัญถัดไปสำหรับ USD/CHF คือ 0.8109 และการทะลุระดับนี้ไปได้อาจทำให้คู่เงินนี้เคลื่อนตัวไปที่ระดับ 0.8000 โดยมีจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ที่ 0.7710 จากเดือนกันยายน 2554 เป็นเป้าหมายต่อไป

    ในทางกลับกัน สามารถพบแนวต้านได้ที่:

    • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ราว 0.8787
    • จุดสูงสุดรายสัปดาห์ที่ 0.8809

    การวิเคราะห์ทางเทคนิคและตัวบ่งชี้

    ปัจจุบัน คู่สกุลเงินดังกล่าวมีภาวะ oversold อย่างรุนแรงที่ระดับ RSI 18 ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการฟื้นตัวทางเทคนิคในอนาคตอันใกล้ การร่วงลงล่าสุดของ USD/CHF สู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2011 สะท้อนไม่เพียงแต่ความอ่อนแอทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโดยรวมที่กว้างขึ้นซึ่งกำลังส่งผลอยู่ในขณะนี้

    หลังจากที่ราคาตกลงต่ำกว่าระดับ 0.8200 ซึ่งมีความสำคัญทางจิตวิทยา การฟื้นตัวที่เห็นที่ระดับ 0.8100 ยังคงเปราะบาง ปัจจัยกระตุ้นหลักคือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในความชอบเสี่ยง ซึ่งกระแสเงินเปลี่ยนไปสนับสนุนการเดิมพันที่ปลอดภัย โดยเฉพาะฟรังก์สวิส

    พฤติกรรมดังกล่าวน่าจะทวีความรุนแรงขึ้นท่ามกลางพลวัตทางการค้าที่เลวร้ายลง โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากจีน แม้ว่าภาษีศุลกากร 125% ที่ทางการจีนกำหนดขึ้นจะเป็นมาตรการตอบโต้ แต่มันได้ขยายผลกระทบเกินกว่าขอบเขตการค้าระหว่างสองประเทศแล้วในตอนนี้

    ผลกระทบที่ตามมาคือ:

    • การรับรู้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม
    • ลดการคาดการณ์การเติบโตทั่วโลก

    สำหรับตลาดอนุพันธ์ หมายความว่า:

    • ความผันผวนโดยนัยเพิ่มสูงขึ้น
    • เบี้ยประกันความเสี่ยงผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจเปลี่ยนแปลงต่อไป

    การปรับเปลี่ยนทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมกับเงินเฟ้อสูงตามตำรา (stagflation) ซึ่งมีผลกระทบต่อตลาดการเงินอย่างกว้างขวาง ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) เริ่มสะท้อนถึงความลังเลใจนี้แล้ว

    ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมที่อ่อนตัวลงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ขณะที่ข้อมูลอื่น ๆ ที่กำลังจะประกาศ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมิชิแกน จะถูกจับตามองอย่างระมัดระวัง

    ในขณะเดียวกัน สัญญาณในประเทศของสวิตเซอร์แลนด์ เช่น การสำรวจของ SECO ที่ -35 แม้จะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเมื่อเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรป แต่ก็เป็นฉากหลังที่อาจจำกัดแนวโน้มขาขึ้นของฟรังก์สวิสในระยะกลาง

    จากมุมมองการซื้อขาย USD/CHF กำลังแกว่งตัวใกล้แนวรับสำคัญที่ 0.8109 หากราคาลดลงต่ำกว่าระดับนี้ จะเปิดประตูสู่ระดับ:

    • 0.8000 (ระดับจิตวิทยา)
    • 0.7710 (จุดต่ำสุดเดิมจากปี 2011)

    แนวต้านที่น่าจับตามองมีโครงสร้างสมมาตรอยู่ใกล้:

    • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ 0.8787
    • ระดับ 0.8809

    จากการพิจารณาดัชนี RSI ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ระดับ 18 ถือเป็นภาวะ oversold ตามตำรา แนวโน้มในอดีตมักแสดงให้เห็นถึงแรงกลับตัวระยะสั้น จึงอาจมีนักลงทุนบางส่วนเริ่มวางกลยุทธ์สวนทางกับแนวโน้มในระดับราคาปัจจุบัน

    ผู้ลงทุนควรติดตามดูว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อข้อมูลในสัปดาห์หน้าอย่างไร หากความผันผวนโดยนัยยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ข้อมูลจริงยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก อาจเป็นโอกาสในการขายความผันผวนระยะสั้น

    อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งควรมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยข่าวสารจากภาครัฐสามารถเปลี่ยนทิศทางของตลาดได้อย่างรวดเร็ว สำหรับตอนนี้ สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่า การเคลื่อนไหวของราคานั้นสะท้อนถึง:

    • ความกลัว
    • การปรับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยใหม่

    ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการวางแผนกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงในปัจจุบัน

    เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets

  • see more

    Back To Top
    Chatbots