เพื่อความอ่านง่ายในแต่ละย่อหน้า พร้อมจัดรายการเป็น
ไตรมาสแรกของปีได้ผ่านพ้นไปแล้วอย่างเป็นทางการ และหากคุณได้เฝ้าติดตามตลาด คุณจะทราบดีว่าตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ตั้งแต่สัญญาณของธนาคารกลางที่เปลี่ยนไป ไปจนถึงการพุ่งขึ้นอย่างน่าประหลาดใจและการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ไตรมาสที่ 1 นำความผันผวน โอกาส และบทเรียนต่างๆ มาให้กับเทรดเดอร์ทุกกลุ่ม
ต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น ความหมาย และสิ่งที่นักเทรดชาญฉลาดได้รับจากไตรมาสแรกของปี 2025
ธนาคารกลางยังคงขับเคลื่อนการสนทนา
ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดเดาตลาดต่างๆ ตลอดไตรมาสที่ 1 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณว่าชะลอตัวลง แต่ข้อมูลเศรษฐกิจยังคงไม่สม่ำเสมอ และเจ้าหน้าที่ของเฟดยังคงใช้ท่าทีแข็งกร้าวยาวนานกว่าที่หลายคนคาดไว้ ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไปมา ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันและแรงดึงต่อทั้งหุ้นและสกุลเงิน
ตามรายงานของ Bloomberg ประธานเฟด พาวเวลล์ ย้ำถึงความสำคัญของการ “พึ่งพาข้อมูล” อีกครั้ง โดยเป็นการเตือนใจว่าผู้ซื้อขายต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วตามข้อมูลมหภาคที่เผยแพร่ใหม่
ในขณะเดียวกัน
- ธนาคารกลางยุโรป และ ธนาคารแห่งอังกฤษ ก็ดำเนินแนวทางเดียวกัน โดยยึดมั่นในนโยบายที่เข้มงวด และส่งสัญญาณผ่อนคลายในช่วงปลายปี
- ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ สร้างผลกระทบเชิงบวกและเปลี่ยนมุมมองการซื้อขายเงินเยน
เทคโนโลยีพุ่งสูง จากนั้นก็สะดุด
ตลาดหุ้นเปิดปีด้วยราคาที่สูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจาก
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องของหุ้น AI
- ความคาดหวังในเชิงบวกต่อการลงจอดทางเศรษฐกิจอย่างนุ่มนวล
ดัชนี Nasdaq พุ่งสูงในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยได้รับแรงหนุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และผู้ผลิตชิป
แต่เดือนมีนาคมกลับส่งสัญญาณย่อตัว การขายทำกำไร และการเข้ามาควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแลทำให้เกิดแรงกดดัน ซึ่งบีบให้ต้อง
- ประเมินความเสี่ยงใหม่กับหุ้นที่มีความผันผวนและมูลค่าสูง
แม้ดัชนี S&P 500 จะยังคงปิดบวกในไตรมาสแรก แต่เส้นทางไปถึงจุดนั้นไม่ได้ราบรื่น ถือเป็นบทเรียนสู่การจัดการพอร์ตโฟลิโอที่ดีขึ้น
สินค้าโภคภัณฑ์ทำให้สิ่งต่างๆ น่าสนใจ
ราคาทองคำพุ่งทะลุ 2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปลายไตรมาส สาเหตุหลักคือ
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
- การเก็งกำไรเรื่องอัตราดอกเบี้ย
- ความต้องการความปลอดภัยจากนักลงทุน
สิ่งนี้ตอกย้ำว่าแม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่สินทรัพย์แบบดั้งเดิมเช่นทองคำ ยังคงมีคุณค่าในยุคดิจิทัล
ในอีกด้านหนึ่ง ราคาน้ำมันก็มีการเคลื่อนไหวตอบสนองข่าวสารทางเศรษฐกิจต่างๆ ตั้งแต่
- การลดกำลังการผลิตโดย OPEC+
- สัญญาณความต้องการที่ผันผวนจากจีน
โดยราคาน้ำมัน WTI อยู่ระหว่าง $75–$85 ทำให้เหมาะต่อผู้ซื้อขายระยะสั้นที่ต้องการเข้าออกไว
ภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยนจากเบื้องหลังมาเป็นเบื้องหน้า
เหตุการณ์ในทะเลแดงและความเปลี่ยนแปลงของพันธมิตรระดับโลกล้วนสะท้อนว่า
- ภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลจริงต่อการซื้อขายและทิศทางของตลาด
สิ่งนี้ทำให้ประเด็นด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานกลับมาเป็นหัวข้อสำคัญอีกครั้ง และทำให้สกุลเงินปลอดภัยอย่าง USD, JPY, และ CHF กลับมาได้รับความนิยม
ไม่ว่าคุณจะซื้อขายตามข่าวหรือไม่ การรู้ว่าเหตุการณ์โลกมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ค่าเงิน และตลาดหุ้นอย่างไร คือกุญแจสู่การเทรดอย่างมืออาชีพ
สิ่งที่นักเทรดสามารถนำไปใช้จากไตรมาสที่ 1
หากไตรมาสที่ 1 พิสูจน์อะไรบางอย่างได้ ก็คือ ความยืดหยุ่นและความพร้อมมีความสำคัญยิ่งกว่าการพยายามคาดการณ์แนวโน้ม
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะ
- ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด
- ควบคุมความเสี่ยงอย่างรัดกุม
- ไม่หลงไปตามกระแสโดยขาดการวิเคราะห์
บทเรียนสำคัญมีดังนี้:
- ความมั่นใจของตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
- การหาความปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวนยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
- ปัจจัยมหภาค แม้ดูซับซ้อน แต่มีบทบาทใหญ่ในการซื้อขายจริง
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 นี่คือเวลาที่เหมาะสมในการ
- ทบทวนกลยุทธ์ลงทุน
- ปรับปรุงแผนการเทรด
- เตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
เพราะสิ่งเดียวที่แน่นอนในตลาดก็คือ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets