และใส่รายการเป็น
ราคาน้ำมันดิบลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.42% ปิดที่ 61.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงมีหลายประการ หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของอิหร่าน ทำให้อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่กดดันราคาน้ำมัน ได้แก่:
- กลุ่ม OPEC+ เตรียมเพิ่มการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรลต่อวัน
- แม้จะยังคงการลดกำลังการผลิตจากระดับสูงสุดไว้ แต่ก็มีสัญญาณว่ากำลังผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านความต้องการน้ำมัน หน่วยงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่าอุปสงค์ทั่วโลกจะลดลงต่อเนื่อง โดย:
- ในไตรมาสแรกของปีคาดว่าจะอยู่ที่ 0.99 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ลดลงเหลือเพียง 0.65 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงที่เหลือของปี 2025
ในขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้น โดย IEA ได้ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นเช่นกัน:
- จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- กลายเป็น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2025
อีกปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อราคาคือนโยบายเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในบางภูมิภาค ผลของสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันอ่อนตัวลง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม
ด้านเทคนิค ราคาน้ำมันได้ลดลงมาทดสอบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 ชั่วโมง ณ จุดต่ำสุดของเซสชัน แต่ไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้:
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง อยู่ที่ 62.12 ดอลลาร์
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 ชั่วโมง อยู่ที่ 60.41 ดอลลาร์
ค่าทางเทคนิคเหล่านี้จะมีบทบาทกำหนดทิศทางของแนวโน้มในระยะสั้น-กลาง ทั้งขาขึ้นและขาลง หากราคาสามารถทะลุผ่านขึ้นไปเหนือค่าเฉลี่ยได้อย่างมั่นคง อาจแปลว่าการปรับฐานมีแนวโน้มสิ้นสุด แต่หากไม่สามารถรักษาระดับได้ ตลาดอาจกลับเข้าสู่โซนแนวรับเดิมอีกครั้ง
ในแง่ของปฏิกิริยาตลาด ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเริ่มมีบทบาทมากกว่าความเคลื่อนไหวทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว หากข้อตกลงนิวเคลียร์ประสบผลสำเร็จจริง น้ำมันจากอิหร่านอาจกลับเข้าสู่ตลาดในปริมาณที่มาก และเทรดเดอร์เริ่มตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ด้วยการตั้งราคาล่วงหน้า
การผ่อนคลายการผลิตของ OPEC+ แม้จะมีการเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็ยังคงสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคาที่เผชิญกับความคาดหวังการบริโภคที่ลดลง ขณะที่ความต้องการสินค้าจากกลุ่มผู้บริโภคและบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันชี้ให้เห็นว่าอารมณ์ของนักลงทุนมีความผันผวน ราคาลดลงแต่พบแรงซื้อที่โซนของค่าเฉลี่ยระยะกลาง พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่ใจของตลาด ทั้งในด้านข้อมูลพื้นฐานและทิศทางนโยบาย
ในอีกแง่หนึ่ง ผู้ค้าควรจับตามองความผันผวน ซึ่งเริ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงล่าสุด โดยเฉพาะในตลาดออปชั่นซึ่งมีการเคลื่อนไหวของพรีเมียมที่เร็วขึ้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในทิศทางที่แน่นอน
ความคาดหวังต่อแนวโน้มของตลาดควรมุ่งไปยังรายละเอียดเล็กๆ เช่น:
- การเปลี่ยนแปลงในระดับสินค้าคงคลังน้ำมัน
- สัญญาณกิจกรรมโรงกลั่นที่มากกว่าคาด
สิ่งเล็กๆ เหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงการฟื้นตัวที่แท้จริงมากกว่าการปรับขึ้นชั่วคราว โดยรวมแล้ว การตัดสินใจซื้อขายควรอิงกับข้อมูลพื้นฐานที่แน่นหนา ไม่ใช่เพียงความหวังว่าราคาจะฟื้นตัวโดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน
ในตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเช่นในปัจจุบัน ความอดทนและการวางแผนกลยุทธ์ตามข้อมูลที่จับต้องได้คือสิ่งสำคัญ
เริ่มซื้อขายทันที – คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีจริงของ VT Markets